|
| เกาะเซ็นโตซ่า(Sentosa)
เกาะแห่งความสนุกของการท่องเที่ยว เมื่อก่อน เกาะเซ็นโตซ่า (Sentosa) ชื่อว่าเกาะแห่งความตาย แต่เดิมเกาะแห่งนี้เป็นหมู่บ้านของชาวประมง และต่อมาเกิดโรคระบาด คนบนเกาะจำนวนมากต้องเสียชีวิตลง จึงได้มีการตั้งชื่อเกาะตามภาษามาลายูว่า บลากัง มาติ (Balakang Mati) ซึ่งหมายถึงเกาะแห่งความตาย ต่อมาสมัยสงครามโลก อังกฤษได้เข้ามาทำเกาะนี้เป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันการโจมตีทางน้ำ เมื่ออังกฤษถอนทัพไปในปี 1968 รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้ปรับปรุงเกาะให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเปลี่ยนชื่อเกาะเป็นเซ็นโตซ่า (Sentosa) ซึ่งหมายถึงสันติภาพและความสงบสุข และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในปี 1972 เป็นต้นมา
การเดินทางมาเกาะเซ็นโตซ่า จะสามารถเดินทางมาได้ทั้งหมด 3 ทาง คือ Sentosa Express (รถไฟ), Cable Car (กระเช้าลอยฟ้า) และ รถประจำทาง
การเดินทางโดย Sentosa Express จะใช้เวลาเดินทางเพียง 4 นาทีเท่านั้น โดยจะต้องไปซื้อบัตรรถไฟลอยฟ้าที่ห้าง Vivo City ชั้น 3 โดยให้บริการตั้งแต่ 7:00 - 24:00 น.ค่าโดยสารคนละ 3 SGD บัตรสามารถใช้ได้ทั้งขาไปและขากลับ และ เมื่อใช้เสร็จแล้วไม่ต้องคืน เก็บไว้เป็นที่ระลึกได้เลย
เพียงแค่ 4 นาทีก็มาถึงเกาะเซ็นโตซ่าแล้ว เราสามารถเลือกลงได้ 2 สถานี คือ Imbiah station และ Beach station ซึ่งเราสามารถดูได้จากแผนที่ของเกาะเซ็นโตซ่าว่าเราต้องการไปเที่ยวจุดไหนก่อน เราก็ลงที่สถานีใกล้ๆ กับจุดที่เราจะไป |
|
|
|
|
| เมอร์ไลออน หรือ สิงโตทะเลถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์(Singapore Tourism Board - STB) ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์
แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างๆสะพานเอสพลาเนด (Esplanade Bridge) แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว มีการจัดพิธีติดตั้งสิงโตทะเลในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1972 โดยมีประธานในพิธีคือนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ณ เวลาดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายลี กวน ยู
สิงโตตัวนี้สูง 8.6 เมตร มีน้ำหนัก 70 ตัน ทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ โดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ผู้เสียชีวิตไปแล้วที่ชื่อนายลิมนังเซ็ง ส่วนรูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูง 2 เมตรและหนัก 3 ตัน ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกัน ตัวสิงโตทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก |
|
|
|
| น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง (Fountain of Wealth) ตำแหน่งของน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ตั้งอยู่ตรงใจกลางระหว่างหมู่อาคาร Suntec City หรืออยู่ใจกลางฝ่ามือซึ่งหงายขึ้นนั่นเอง ก็เพราะมีความเชื่อว่าน้ำไหลของน้ำพุเปรียบเสมือนกับเงินทองที่ไหลเข้าฝ่ามือไม่หยุดหย่อนน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง(Fountain of Wealth)
เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำพุแห่งความมั่งคั่งสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2540(ค.ศ. 1997)และ Guinness Book ได้ทำการจดบันทึกสถิติไว้ในปี พ.ศ.2541 ว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวน้ำพุทำเป็นสีบรอนซ์และประกอบด้วยวงแหวนกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 66 เมตร ความสูง 13 เมตร บริเวณฐานของน้ำพุมีพื้นที่ 1,683 ตารางเมตร นอกจากนี้ยีงมีการแสดงน้ำพุประกอบแสง สีเสียง 3D Laser ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมากใครที่มีโอกาสที่ได้เดินรอบฐานกลางของน้ำพุสามครั้งและสัมผัสน้ำทุกครั้งก็จะรับความโชคดีและมีความมั่งคั่งในทรัพย์สินตามมา ขั้นตอนการสัมผัสน้ำจะต้องใช้มือขาวสัมผัสน้ำและอธิษฐาน จากนั้นเดินวนตามเข็มนาฬิกาให้ได้ 3 รอบ คำอธิษฐานก็จะเป็นผล อันนี้ฟังเขามา สำเร็จหรือไม่ลองพิสูจน์ดูนะค่ะ
สำหรับตารางเวลาในการแสดงเปิดให้เข้าชม
09:00 - 22:00 น.
แสดงเลเซอร์โชว์
20:00 น. ,20:30 น. ,21:00 น. (3 รอบเท่านั้น)
เปิดให้สัมผัสน้ำ 09:00 น. - 12:00 น.
14:30 น. - 18:00 น.
19:00 น. - 19:45 น.
21:30 น. - 22:00 น.
ด้วยสาเหตุนี้น้ำพุแห่งความมั่งคั่งจึงได้รับความนิยมและโด่งดังมาก จนมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยเฉพาะชาวจีน ด้วยความเชื่อตามโหงวเฮ้งฮวงจุ้ย เพื่อความเป็นสิริมงคลจึงมีผู้คนมาเที่ยวชมกันล้นหลาม |
|
|
|
| มารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sand) รีสอร์ทหรูใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ มารีน่า เบย์ แซนด์ส ประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสูทกว่า 2,561 ห้อง อีกทั้งโรงแรมยังมีไฮไลท์ คือ The Sands SkyPark ตั้งอยู่ชั้นที่ 57 ของโรงแรม เป็นสถาปัตยกรรมรูปร่างคล้ายเรือตั้งอยู่บนอาคารทั้ง3 แซนด์ส สกาย พาร์คนี้ถือว่าเป็นสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 12,400 ตร.ม. และจัดเป็นสวนลอยฟ้าที่มีความสูง 200 ม. ใช้หลักการเดียวกับวิศวกรรมสร้างสะพาน เชื่อมอาคารทั้ง 3 เข้ากัน ถือว่าเป็นสวนลอยบนชั้นดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย มีความยาวกว่าความสูงของหอไอเฟลบนสวนได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มีต้นไม้ใหญ่ 250 ต้น และไม้ประดับอีก 650 ต้น มีร้านอาหารที่หรูหรา รวมถึง The Sky on 57 ที่จะมีเชฟชื่อดังจากสิงคโปร์ เชฟ Justin Quekเป็นผู้ควบคุมดูแลร้านอาหาร มีดาดฟ้าที่งดงามให้นักท่องเที่ยวได้มองวิวสิงคโปร์ได้โดยรอบในมุมสูง และยังมีสระว่ายน้ำขนาด 150 ม. เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนที่สูงที่ใหญ่สุดที่ในโลกอีกด้วย |
|
|
|
| ท่าเรือคลาร์ก (Clarke Quay)
ช้อปปิ้ง กินดื่ม แล้วสนุกที่ริมแม่น้ำสายนี้! จุดเด่นของที่นี่คือโกดังเก็บของที่ซ่อมแซมแล้วจำนวน 5 ช่วงตึก ท่าเรือคลาร์ก (Clarke) คือทางเลือกที่แหวกแนวไปจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วๆไป ที่นี่มีร้านขายของมือสองและของเก่า ตลาดนัดที่ขายของมือสองในวันอาทิตย์และร้านอาหารที่มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ตกเย็นคุณก็ไปที่เธคและผับเพื่อสนุกกับเพลงมากมายตั้งแต่ยุคซิกตี้จนถึงปัจจุบัน หรือจะหวาดเสียวไปกับรีเวอร์สบันจี้ G-Max ของเรา! ออกแบบและพัฒนาในนิวซีแลนด์เมื่อแปดปีที่แล้ว G-Max เป็นเครื่องเล่นแบบนี้อันแรกสุดของสิงคโปร์ วิธีการก็คือ คนสามคนจะนั่งอยู่ในแคปซูลเสริมเหล็กกล้าแบบเปิดโล่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ยึดติดกับสายรีเวอร์สบันจี้ที่ติดกับเสาสองต้น สายบันจี้ของเราผ่านการรับรองจากสหรัฐอเมริกาแล้ว จากนั้นสายก็จะถูกดึงแล้วปล่อย ทำให้แคปซูลถูกดีดไปในอากาศสูงถึง 60 เมตรที่ความเร็ว 200 กม.ต่อชั่วโมง รอบหนึ่งจะเด้งอยู่ราว 5 นาที |
|
ท่าเรือแห่งนี้ตั้งชื่อตามเซอร์ แอนดรูว์ คลาร์ก ผู้ว่าคนที่สองของสิงคโปร์ ท่าเรือ Clarke Quay แห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าขายที่นี่เคยมีเรือท้องแบนจำนวนมหาศาลทำการขนส่งสินค้าทวนน้ำไปที่โกดังสินค้า ใกล้ๆกับทางเข้าท่าเรือคลาร์กที่ถนนริเวอร์แวลเลย์ คุณจะเห็นโรงน้ำแข็งแวมโป (Whampoa's Ice House) ซึ่งเป็นของนายฮูอาเคย์ (Hoo Ah Kay) ผู้อพยพยุคแรกจากแวมโป ประเทศจีน เขาเป็นคนนำเข้าน้ำแข็งจากบอสตันในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ก่อนที่จะมีเครื่องทำน้ำแข็งในประเทศสิงคโปร์ คุณจะสังเกตเห็นว่าพ่อค้าชาวจีนและชาวยุโรปต่างก็นำรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของตนเข้าสู่บริเวณนี้ |
|
| โรงละครเอสพลานาด (Esplanade)
โรงละครบนชายหาดเป็นหนึ่งในศูนย์แสดงศิลปะที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เปิดตัวอย่าง เป็นทางการเมื่อ 12 ตุลาคม 2002 เดิมนั้นเปิดในปี 1943 โดยตั้งอยู่บนสวนซึ่งตอนนี้นั้นมี พื้นที่ 2.4 เฮคเตอร์ (ประมาณ 24,000 ตารางเมตร) ริมถนนคอนนอท (Connaught Drive) โดยตั้งอยู่ตรงข้ามซิตี้ ฮอลล์ (City Hall) ในปี 1985 รัฐบาลได้มีโครงการที่จะสร้างศูนย์แสดงศิลปะขึ้นในสิงคโปร์และลงความเห็นว่าเอสพลานาดนั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะสม ที่สุด เอสพลานาดในรูปแบบเดิมจึงถูกปรับปรุงใหม่ในปี 1991 เพื่อความสวยงามของเขตซิวิค ดิสตริก (Civic District) และเพื่อเป็น ศูนย์แสดงศิลปะ ในปี 1992 ทีมงานสถาปนิกซึ่งประกอบด้วยบริษัท DP อาร์คิเทค (DP Architechs) (สิงคโปร์)และ ไมเคิล วิลฟอร์ด แอนด์ พาร์ทเนอร์ (Michael Wilford & Partners) (สหราชอาณาจักร) ได้ ถูกเลือกมาให้ออกแบบศูนย์นี้ เพื่อเป็นสัญลักษ์แห่งการเชื่อมต่ออัน ทรงคุณค่าระหว่างอดีตและปัจจุบัน |
|
ศูนย์แสดงศิลปะแห่งนี้จึงถูก เรียกว่าเอสพลานาด - โรงละครบนหาดทราย ในปัจจุบัน สัญลักษณ์แห่งสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบเหมือนหอยเชลล์สองตัวแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ในเขตซีวิค ดิสตริก(Civic District) ของสิงคโปร์ อยู่เคียงข้างกับอ่าวมาริน่า เบย์ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ เอสพลานาดนั้นประกอบไปด้วยห้องแสดงขนาดใหญ่สองห้อง คือห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาด 2,000 ที่นั่ง และขนาด 1,600 ที่นั่ง และมีสตูดิโอขนาด เล็กอีกสองห้องทั้งในและนอกอาคารโดมที่เป็นโรงละครและห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ทั้งสองห้องนี้ถูกออก แบบมาให้สร้างขึ้นด้วยกระจกเพื่อสื่อถึงความรู้สึกแห่งความเปิดกว้าง เพื่อทำให้ศูนย์แห่งนี้เย็นสบายจากอากาศใน เขตร้อน ได้มีการติดตั้งแผ่นบังแดดที่ทำจากอลูมิเนียมและกระจกเคลือบสองชั้นเข้ากับโครงหลังคาที่ทำจากเหล็ก ทำให้ศูนย์แห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นตัดกับเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์เป็นอย่าง มาก เหล็กแหลมที่ปกคลุมศูนย์แห่งนี้ทำให้มันได้รับการเรียกขานตามชื่อของผลไม้ยอดนิยมของสิงคโปร์ว่า เดอะ ดู เรียน (ทุเรียน) |
|
|
ภาพความประทับใจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ |
| | |
|
|
| เครื่องเล่นโซน Madagascar A CrateAdventure ร่วมเก็บความประทับใจกับการสัมผัสเป็นส่วนหนึ่งของตัวการ์ตูนโลกแห่งจินตนาการอย่างมีความสุข สนุกสนาน ผ่อนคลายเต็มที่ประหนึ่งกลับบมาเป็นเด็กอีกครั้ง |
|
|
|
| The Sand Sky Parkสัมผัสบรรยากาศคลาสสิค กับความหรูหราบนตึกสูงชั้นที่ 57 สระว่ายน้ำลอยฟ้าที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก |
|
|
|
| เครืองเล่นโซนวัดใจ Battlestar Galactica เครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังการางคู่ที่สูงที่สุดในโลก Revenge of The Mummy ขุดหาสมบัติของฟาโรห์ และค้นหาปริศนาแห่งมัมมี่
หากท่านใดได้สัมผัสกับเครืองเล่น สองสิ่งนี้ถือได้ว่าท่านเป็นผู้ที่มีความกล้า เพราะเครื่องเล่นทั้งสองโซนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย
หวาดเสียว ตื่นเต้น ทุกวินาที ถือได้ว่าไม่ควรพลาดเครืองเล่นสองสิ่งนี้ |
|
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น